กลยุทธ์การตลาด 4P คืออะไร มีไว้เพื่ออะไร

ผู้บริหาร มีรูปแบบกลยุทธ์ให้เลือกมากมายสำหรับนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจ แต่กลยุทธ์ที่ต้องถือเป็นแม่บททางการตลาดอย่างแท้จริงคงเห็นจะหนีไม่พ้น “กลยุทธ์ 4P” เพราะเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศว่ามีประสิทธิภาพในการทำการตลาดค่อนข้างสูง

กลยุทธ์การตลาดคืออะไร มีไว้เพื่ออะไร

กลยุทธ์ทางการตลาดเป็นการวางแผนที่มีประสิทธิภาพอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจ การวางแผนที่ดีจะทำให้สินค้าหรือแบรนด์เติบโตอย่างมีแบบแผน ไม่หลงไปกับสภาวะเศรษฐกิจหรือความกดดันจากคู่แข่ง และยังทำให้สินค้าหรือแบรนด์นั้นๆมีความชัดเจน (ว่าสินค้าของตังเองเป็นสินค้ากลุ่มใด ลูกค้าเป้าหมายคือกลุ่มใด) เมื่อตำแหน่งในตลาดชัดเจนแล้ว ย่อมทำให้การกำหนดกลยุทธ์ต่างๆออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพตามไปด้วย

แนวคิดทางการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดโดยการนำกลยุทธ์4P มาปรับใช้กับกิจการนั้น แอดมินจะสมมุติสินค้าหรือบริการที่เราจะเสนอให้กับลูกค้า ซึ่งก็คือ “กล่องใส่เครื่องสำอาง” มาดูกันว่าเมื่อนำกลยุทธ์การตลาดทั้ง 4P มาประยุกต์ใช้กับกล่องใส่เครื่องสำอางแล้ว จะเป็นอย่างไรบ้าง

กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์  (Product Strategy)

“ความสำคัญของกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์คือ มีความแตกต่าง โดดเด่น เป็นสิ่งที่ลูกค้าสัมผัสได้ เช่น มีรูปแบบแปลกใหม่ สไตล์ทันสมัย ฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน หรือถ้าเป็นงานบริการ อาจจะมีการนำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้”
“กล่องใส่เครื่องสำอาง” การกำหนดตัวสินค้าให้เหมาะสมกับตลาดก็ต้องดูว่า กลุ่มลูกค้าเราต้องการอะไร เช่นต้องการกล่องใส่เครื่องสำอางที่สวยงาม มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน มีชั้นเล็กชั้นน้อยที่ใส่ของจุกจิกได้ครบทุกประเภทในผลิตภัณฑ์ชิ้นเดียว เป็นกล่องใส่เครื่องสำอางที่ทำมาจากพลาสติก สีสันสวยงาม เปิดง่ายพับเก็บง่าย เป็นต้น

กลยุทธ์ราคา (Price Strategy)

“การกำหนดราคาจะต้องคำนึงถึงต้นทุนการผลิตบวกกับผลกำไรที่ต้องการ แล้วจึงทำการกำหนดราคาขายออกมา
โดยต้องคำนึงสภาพการแข่งขันของตลาด และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วย
ถ้าราคาสูงเกินไปแต่กลุ่มเป้าหมายไม่มีกำลังซื้อ จะทำให้ขายสินค้าไม่ได้
ขณะเดียวกันถ้ากำหนดราคาต่ำมากเกินไป กำลังซื้ออาจมีมาก แต่ได้กำไรน้อยกว่าที่ควรจะเป็น”

การปรับใช้กลยุทธ์ราคากับ “กล่องใส่เครื่องสำอาง” เนื่องจากกล่องใส่เครื่องสำอางนี้เป็นแบบใหม่ที่ไม่เคยมีขายในตลาด ประกอบกับสินค้าโดดเด่น ประณีต น้ำหนักเบา และมีช่องใส่ของเยอะมาก ทำให้เป็นที่หมายปองของผู้หญิงทุกคน ฉะนั้นบริษัทจึงกำหนดราคาขายไว้ที่ระดับกลางถึงสูง เพราะได้เปรียบเรื่องรูปลักษณ์น่าสนใจ

กลุ่มลูกค้าของกล่องใส่เครื่องสำอางคอเลคชั่นนี้คือ คนที่ต้องแต่งหน้าเป็นประจำ อย่างเช่นพนักงานออฟฟิต พริตตี้ หรือคนที่รักการแต่งหน้า คนที่มีกำลังซื้อเครื่องสำอางและต้องการเก็บอย่างทะนุถนอม กลุ่มเป้าหมายจึงต้องเป็นคนที่มีกำลังซื้อปานกลางถึงสูง

กลยุทธ์การจัดจำหน่าย  (Place Strategy)

“ช่องทางการจัดจำหน่าย จะเป็นตัวกำหนดภาพลักษณ์ของสินค้าได้ด้วย อย่างเช่นการขายในห้างกับขายที่ตลาดนัด 
แน่นอนว่าภาพลักษณ์สินค้าที่อยู่ในห้างจะต้องรู้สึกว่าสวยหรูกว่า มีคุณภาพมากกว่าสินค้าตลาดนัด ในขณะเดียวกัน
ถ้าวางขายสินค้าที่ตลาดนัดจะได้เปรียบเรื่องการกระจายสินค้า ราคาขายอาจถูกกว่าแต่ลูกค้าก็มีจำนวนมาก”
“กล่องใส่เครื่องสำอาง” กับกลยุทธ์การจัดจำหน่าย อาจออกมาในรูปแบบของการวางตำแหน่งของสินค้า เช่น บริษัทต้องการจับกลุ่มลูกค้าบน จึงวางขายสินค้าที่ห้าง ออกบุ๊ธสินค้าดารา หรือการขายในช๊อปออนไลน์เท่านั้น จะไม่มีกี่ขายสินค้าตามตลาดนัดเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของสินค้าให้ดูมีระดับนั้นเอง

กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด (Promotion Strategy)

“การทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ไม่ใช่เพื่อกระตุ้นยอดขายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น 
แต่ยังเป็นการทำโฆษณาเพื่อบอกลูกค้าว่าสินค้าของเรา คืออะไร ดีอย่างไร ทำไมคนต้องใช้ 
เป็นการทำให้สินค้าเราเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค วันนี้ลูกค้าอาจจะยังไม่ตัดสินใจซื้อ 
แต่การส่งเสริมการตลาดผ่านสื่อต่างๆ จะทำให้ลูกค้าได้รู้จักสินค้าของเรา 
และจะนึกถึงเราเป็นคนแรกเมื่อต้องการสินค้าประเภทเดียวกัน”

กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด กับ “กล่องใส่เครื่องสำอาง” เมื่อลูกค้าส่วนใหญ่รู้จักสินค้าของเราและเข้าใจว่าสินค้าอยู่ในระดับไฮ จะมีลูกค้าบางกลุ่มที่ชื่นชอบแต่ไม่ตัดสินใจซื้อเสียทีเนื่องจากราคาที่ค่อนข้างสูง การทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเข้ามาช่วยจะทำให้เพิ่มความต้องการมากยิ่งขึ้น เมื่อมีการลดราคาประจำปี จะทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูดและยิ่งเพิ่มความสนใจทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้างออกไปอีกแน่นอน

กลยุทธ์ 4P นี้ เป็นมาตรฐานของการกำหนดกลยุทธ์การตลาด ปัจจุบันนี้ยังมีการเพิ่มกลยุทธ์เข้ามาอีก เพื่อเพิ่มศักยภาพของแบรนด์ หรือสินค้า ความละเอียดอาจมีมากกว่าอาจทำให้เจ้าของกิจการมือใหม่สับสน วันนี้จึงขออธิบายแค่ 4 กลยุทธ์หลักก่อน ถ้าทั้งหมดมารวมกันเราจะเรียกว่า กลยุทธ์การตลาด 8P นั่นเอง 4 กลยุทธ์ที่เหลือประกอบด้วย

• กลยุทธ์ด้านบรรจุภัณฑ์ (Packaging Strategy)
• กลยุทธ์การใช้พนักงานขาย (Personal Strategy)
• กลยุทธ์การให้ข่าวสาร (Public Relation Strategy)
• กลยุทธ์การใช้พลัง (Power Strategy)