เมื่อทุกคนต้องการรายได้เสริม แน่นอนว่าต้องเริ่มต้นด้วยการหาสินค้ามาขาย แต่ว่าจะขายอะไรดีล่ะ ไม่ว่าจะพยายามหาสินค้าที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครขนาดไหน แต่สุดท้ายก็จะต้องมีคนที่เหมือนเราหรือไม่เราก็ไปเหมือนเขาอยู่เสมอ ถ้าไม่รู้ว่าจะขายอะไรดีแบบนี้ ก็คงต้องปรับเปลี่ยนสิ่งเดิมที่ขายกันอยู่นี่แหละให้น่าสนใจมากขึ้นแทน
วิธีการขายของธรรมดาอย่างไรให้ดู “ไม่ธรรมดา”
ไม่ว่าจะสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง ความงาม อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องมือเครื่องจักร หรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าหากพบว่าอะไรขายดี รับรองได้เลยว่าอีกไม่นานต้องมีสินค้าประเภทเดียวกันขายเกลื่อนแน่นอน ความลำบากจึงตกอยู่กับผู้ขายรายใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาด เพราะไม่ว่าจะขายอะไรดีก็จะกลายเป็นเพียงคู่แข่งขันหนึ่งเท่านั้น ฉะนั้นถ้าหาจุดต่างที่สินค้าไม่ได้ ก็ต้องมีจุดต่างที่ด้านอื่นแทน ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีดังนี้
- ขายความประทับใจ ถ้าหากมีร้านขายข้าวแกงอยู่ 2 ร้าน ที่ทำกับข้าวอร่อยเหมือนกัน คุณภาพดีเช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันที่การบริการ ร้านหนึ่งหน้าหงึกหน้างอเวลาลูกค้ามารุมซื้อ แต่อีกร้านกลับยิ้มแย้มเสมอบอกให้ลูกค้ารออย่างอ่อนหวาน หากเป็นคุณคงตัดสินใจไม่ยากใช่ไหมคะว่าจะซื้อสินค้าจากร้านไหน การเลือกขายของที่มีซ้ำกันก็เหมือนกัน ถึงแม้สินค้าและราคาจะเหมือนกัน แต่ถ้าเราบริการดี พูดจาไพเราะ ลูกค้าต่างก็ย่อมชอบและอยากกลับมาซื้อซ้ำ อย่างนี้ไม่ต้องนั่งกลุ้มว่าจะขายอะไรดีแล้วล่ะ
- ขายบริการ คุณเคยซื้อสินค้าจากร้านใดร้านหนึ่งด้วยเหตุผลที่ว่า “คนขายบริการดี” ไหมคะ ไม่ว่าจะร้านอาหาร ร้านตัดผม ร้านขายของชำ ขายเสื้อผ้า หรือแม้แต่ร้านขายของออนไลน์ การบริการที่ดีไม่ได้มีเพียงการพูดจาที่ไพเราะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบริการที่ถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำ ไม่มีผิดพลาด สินค้าหรือบริการมีคุณภาพ ให้บริการแก่ผู้รับบริการทุกคนด้วยความเสมอภาคเท่าเทียมกันตามลำดับ ก่อน-หลัง อย่างนี้เป็นต้น
- ขายความแตกต่าง ร้านขายหอย “สถานีมีหอย” ที่ตลาดหัวมุม, แม่ค้าขายส้มตำที่ขายไปรำไป, พ่อค้าชายชาชักที่โชว์การชงชาอันแสนหวาดเสียว สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวอย่างของการนำเสนอที่แตกต่าง ยกตัวอย่างร้านสถานีมีหอย หรือ “ผู้ชายขายหอย” เมนูที่ขายในร้านก็เป็นเมนูหอยย่างหอยลวกทั่วไป หากแต่การนำเสนอของเขานั้นมีความโดดเด่นจนไม่มีใครไม่เหลียวมอง! โดยการให้ผู้ชายร่างใหญ่ใส่ชุดผู้หญิงเปรี้ยวเซ็กซี่มาขายหอย! จุดนี้เองทำให้เมนูหอยลวกธรรมดา กลับดูไม่ธรรมดาเพราะการนำเสนอที่สะดุดตาและน่าชื่นชม
- ขายความแปลก หากพูดถึงลูกชิ้นยักษ์หลายคนต้องนึกถึงลูกชิ้นลูกเป็นกิโลที่ตลาดสามชุก ตลาดเก่าแก่ในจังหวัดสุพรรณ ลูกชิ้นที่มีความใหญ่เป็นพิเศษช่วยสร้างความจดจำแก่นักท่องเที่ยวได้ดีทีเดียว ความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครแบบนี้ทำให้ “ไม่มีใครไม่รู้จัก” และยังสามารถกลบความธรรมดาของก๋วยเตี๋ยวได้หมดสิ้น
- ขาย Story จะทำให้สินค้านั้นดูน่าสนใจ ยกตัวอย่าง หากนึกถึงหมูทอด…ต้องหมูทอดเจ๊จง ซื้อข้าวมันไก่…ต้องที่ประตูน้ำ จะซื้อลอดช่อง…ต้องเป็นลอดช่องวัดเจษ เครปที่อร่อยที่สุด…ต้องเป็นเครปป้าเฉื่อย ทำไมจะซื้ออาหารเหล้านี้ต้องนึกถึงเจ้าดัง ? นั่นก็เพราะร้านค้าเหล่านี้เขาได้สร้าง Story หรือเรื่องราวเอาไว้ให้กลายมาเป็นเจ้าแห่งตลาด
การที่สินค้าเรามีเรื่องเล่า มีที่มาที่ไป ในที่สุดจะกลายเป็น “ตำนาน” ที่ถูกพูดถึงไปตลอด กลายเป็นจุดขายที่ถูกบอกต่อกับออกไปเรื่อย ๆ ทำให้คนอยากลอง จะทำให้เมื่อนึกถึงต้นตำรับจะต้องนึกถึงเราเป็นเจ้าแรก ถึงแม้ว่าขายสินค้าเหมือนกับเจ้าอื่นก็ตาม
