จุดเริ่มต้นของเราต่างกัน บางคนเกินในครอบครัวที่ร่ำรวย บางคนเข้าทำงานดีๆ ได้เพราะเป็นเด็กฝาก โอกาสของคนเราที่จริงตัวเราเองที่ปิดกันเพราะหาข้ออ้างมาเพื่อสนับสนุนให้ตัวเราเองหยุดแค่นั้น ฉันทำต่อไม่ได้ เด็กฝากทำอะไรก็ไม่ผิดนี้เราพูดถึงสังคมของเราที่เกิดขึ้นจริง ผมเองไม่เคยสนใจว่าจะเด็กฝาก จะบ้านรวยผมพยายามทำหน้าที่และพยายามเดินเข้าหาโอกาสอยู่ตลอดเวลา
หากย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้วเด็กช่างไม่ได้รู้เรื่องเลยเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การเรียนพอไปได้ไม่เก่งภาษาแต่ผมพยายามเรียนรู้ด้วยตนเองฉันอยากทำเว็บไซต์ได้ ตั้งแต่นั้นมาก็ทำเว็บไซต์เป็นรายได้เสริมคู่กับงาน แต่ชีวิตคนเราต้องการอะไรที่มากกว่านี้ได้อย่างจะเอาอีกอย่าง
วันนี้ผมอยากแนะนำให้สมาชิกที่เข้ามาอ่านเจอบทความได้ประโยชน์สูงสุดเกี่ยวกับจุดเริ้มต้นการเป็นนายหน้าขายทรัพย์บ้าน คอนโด ทีดิน ผมข้อกล่าวถึงความเป็น และประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ให้ฟังกันนะครับ ในส่วนเนื้อหาที่เจาะสึกท่านเองสามารถศึกษาได้จากอ่านหนังสือ และเข้าอบรม สัมมนาต่างๆ เกี่ยวกับการเป็นนายหน้าขายทรัพย์
จุดเริ่มต้นของการเป็นนายหน้า
ไม่แปลกอะไรสำหรับผู้ที่ไม่เคยทำงานเป็นนายหน้ามาก่อนที่จะกล้าๆ กลัว จุดเริ่มต้นขอผมคือ อยากมีรายได้ที่มากขึ้น อยากให้แฟนทำงานที่เค้าชอบคืองานขาย และเป็นที่ยอมรับ เริ่มแรก ผมคิดเสมอว่าใครจะมาไว้ใจให้เราขายทรัพย์ของเค้า คิดไปคิดมา ผมเริ่มจากให้แฟนวิ่งหาโครงการบ้านแล้วยื่นใบสมัคร และตัวผมเองเริ่มจากทำแฟนเพจ ทำเว็บเตรียมความพร้อม แต่ที่ได้ผลที่สุดเราต้องลงสนามจริงๆ อ่านหนังสือให้เยอะๆ และอยากไปเชื่อที่ในหนังสือบอก แต่ให้เราลงมือทำอย่างจริงใจ อ่านเพื่อเป็นแนวทาง
เราควรมีเป้าหมาย โดยตั้งเป้าหมายหาทรัพย์ให้มี 100 ทรัพย์ บ้าน คอนโด ที่ดิน หามาให้มากที่สุด และถ้าขายในจำนาย 100 ทรัพย์ไม่ได้เลยผมขอบาย เดินออกจากจุดนี้ เริ่มต้นจากบ้านหลังแรกที่ผมลงสนามขี่รถมอเตอร์ไซค์หาจนเจอเจ้าของบ้านที่ติดประกาศไว้ ผมไม่รอช้าโทรเข้าไปเลยครับ หลังแรกก็ผิดหวัง โดยถามกลับมาตอบกลับไม่เป็น ผมทำแบบนี้ได้ประมาณ 10 หลังได้ในที่สุดก็มีเจ้าของใจดีบอกให้ผมลองขายให้ (สิ่งสำคัญพยายามพูดคุยกับคนให้เยอะๆ จะทำให้รู้ว่าเราต้องพูดอย่างไร)
ต่อมาติดต่อขอนัดวันถ่ายรูปพร้อมกับทำสัญญาแต่งตั้งนายหน้า เรื่องสัญญหาอ่านได้จากเน็ตหรือจากหนังสือนะครับ ผมทำงานชินแรกอย่างเติมที่โดยศึกษาเค้าทำการตลาดอย่างไร เค้าทำมั้ยถึงขายได้ วนอยู่แบบนี้หลายเดือนได้เจอลูกค้า ได้เจอกับเจ้าของบ้านคนใหม่ เริ่มทำให้เรารู้แล้วและจับทางได้ (เราต้องมีความรู้รอบด้าน และพยายามติดต่อกับคนที่เก่งกว่าเรา) ผมเองถือว่าโชคดีที่เริ่มเข้าวงการนี้แล้วได้รู้จักเพื่อนนายหน้าหลายคนเราไม่รู้อยากอวดเก่ง ไม่ขี้คุยกับเจ้าของบ้านว่าเราขายเก่งขายได้ เพียงเพื่อต้องการขายให้เค้ายอมให้เราขายบ้าน
แต่มีวิธีพูดต่างๆ มากมายที่ทำให้เค้ารับ สิ่งที่ผมใช้ประจำคือ “ผมมีลูกค้าต้องการให้หาบ้านครับ ไม่ทราบว่าสนใจรับนายหน้าหรือป่าวครับ” สิ่งที่ได้ตชคือ 90% ตอบรับมา