เป็นมนุษย์เงินเดือนจะขายอะไรดี ? ในยุคนี้ต้องบอกเลยว่ารายได้ทางเดียวไม่พอจริง ๆ ยิ่งสำหรับมนุษย์เงินเดือนด้วยแล้ว ยิ่งพบว่าภาระค่าใช้จ่ายนั้นมากมาย ไหนจะค่าใช้จ่ายส่วนตัว ไหนจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนโทรศัพท์มือถือ ค่าเติมน้ำมัน ส่งเงินให้ที่บ้าน ฯลฯ ภาระมากมายไม่รู้จบ ถ้าหากใครยังเหลือเงินเก็บถึง 5,000 ต้องบอกเลยว่าเทพมาก ๆ แต่ถ้าคุณไม่เหลือเงินเก็บบอกเลยว่าแย่แน่นอน ควรรีบหารายได้เสริมให้ไว …ว่าแต่จะขายอะไรดีล่ะ ?
มนุษย์เงินเดือนหากยังไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี อาจจะเริ่มต้นจากการสำรวจตัวเองว่าเราชอบและถนัดที่จะทำอะไรนอกเหนือจากงานประจำที่ทำอยู่ และสามารถทำควบคู่ไปกับงานประจำที่ทำอยู่ได้ เมื่อคิดไอเดียอะไรได้แล้วให้ศึกษาหาความรู้ถึงแนวทางเป็นไปได้ ซึ่งควรศึกษาทั้งข้อดีและข้อเสีย ยิ่งถ้าหากมีเป้าหมายให้ชีวิต จะสามารถทำให้เราวางแผนได้อย่างชัดเจนขึ้น สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่กำลังมองหารายได้เสริมแต่ยังไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี เรามีเทคนิคดี ๆ ในการขายสินค้าดังนี้
สินค้าตามกระแส สินค้าที่ฮิตตามกระแส เป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงจึงทำให้ขายง่าย เทคนิคคือไม่ต้องขายราคาสูงกว่าคู่แข่ง (แต่ไม่ควรขายตัดราคาเพราะจะเสียทั้งระบบ รวมทั้งตัวเราด้วย) กำไรต่อชิ้นไม่ต้องมากนักแต่เน้นขายให้ได้ปริมาณมาก ๆ ก็จะทำให้สินค้าขายออกได้ไว
ยกตัวอย่างเช่น ครีมบำรุงผิว ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ตุ๊กตาออกใหม่ที่กำลังฮิต หรืออย่างแก้วสแตนเลส YETI เป็นต้น สิ่งที่ต้องระวังคือกระแสมาไวก็ไปไว ฉะนั้นไม่ควรสต๊อกของคราวละมาก ๆ เพื่อลดความเสี่ยงสินค้าค้างสต๊อก
สินค้าที่ขายได้เรื่อยๆ เป็นสินค้าที่ยอดขายอาจไม่ได้หวือหวา แต่ลูกค้าก็จะถามหาเรื่อย ๆ ข้อดีของการขายสินค้าเหล่านี้คือไม่ต้องหมดงบไปกับการโฆษณา เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้จักอยู่แล้ว เคล็ดลับในการขายสินค้ากลุ่มนี้คือหมั่นทำให้ลูกค้าเห็นอยู่เสมอไม่ว่าจะทางออนไลน์หรือออฟไลน์ เพื่อให้ลูกค้าไม่ลืมเรา มีการจัดโปรโมชั่นเป็นระยะ และเมื่อเริ่มมีลูกค้าแล้วต้องดูแลให้ดีเพื่อให้กลายมาเป็นฐานลูกค้าประจำ
สินค้าที่ราคาแพง บ่อยครั้งที่หลายคนที่ตั้งคำถามว่าจะขายอะไรดี มักจะจบลงที่การขายสินค้าราคาถูก แถมยังไปตัดราคาคนอื่น แต่บางครั้งอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือน ที่ยิ่งมีเวลาน้อยยิ่งต้องทำให้เหนื่อยน้อที่สุดและได้กำไรสูงสุด การขายสินค้าที่มีราคาสูงจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพราะถึงแม้จะขายได้น้อยแต่ขายได้ทีก็คุ้มค่า
สินค้าที่ไม่เสีย เช่นเสื้อผ้า สินค้าIT เครื่องสำอาง เครื่องประดับ หรือแม้แต่กระทั่ง ถุงเท้า เพราะคนทำงานประจำอาจจะมีเวลาในการขายน้อย ฉะนั้นควรเลือกประเภทสินค้าที่สามารถเก็บไว้ได้นานไม่เน่าเสีย
ขายงานประเภทบริการ ทุกครั้งที่เริ่มต้นด้วยคำถามว่าขายอะไรดี มักจะจบลงด้วยการขายประเภทสินค้า แต่หลายคนอาจลืมไปว่ายังมีงานอีกประเภทอาจไม่ต้องลงทุนเลยเสียด้วยซ้ำ นั่นก็คืองานประเภทบริการต่าง ๆ นั่นเอง อาทิเช่น รับจ้างแปล รับจ้างเขียนบทความ รับจ้างลงโปรแกรม รับจ้างทำวิทยานิพน์ หรือเป็นบล๊อกเกอร์ริวสินค้า เป็นต้น ซึ่งสามารถใช้เวลาหลังเลิกงานทำได้สบายเลยล่ะ
เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีจะหันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่ได้ มนุษย์เงินเดือนผู้แข็แกร่งอย่างเราจึงต้องพึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณทำงานสองอย่างขึ้นไป สัจธรรมอย่างหนึ่งที่คุณต้องเจอคือ “ความเหนื่อยล้า” ซึ่งรวมทั้งร่างกายและจิตใจ ฉะนั้นต้องคิดบวกและมีสติอยู่เสมอ ไม่ว่าจะขายอะไรก็ตามต้องค่อยเป็นค่อยไป และแบ่งเวลาให้ดีเพื่อไม่ให้งานเสียสักทาง
