แบรนด์นั้น สำคัญไฉน การสร้างแบรนด์ให้น่าจดจำ เป็นการบ้านที่สำคัญของเจ้าของธุรกิจทุกราย “ชื่อ” เป็นคำเรียกสั้นๆ แต่มีความหมายที่ลึกซึ้งเหลือเกินสำหรับธุรกิจ จริงอยู่ คุณอาจตั้งชื่อธุรกิจว่าอะไรก็ได้ จะเอานามสกุล เอาชื่อลูก หรือคิดชื่อเก๋ๆอย่างไรก็ได้ แต่การที่จะทำให้ชื่อแบรนด์ของคุณติดตลาดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก
ชื่อ การตั้งชื่อแบรนด์
การตั้งชื่อ ควรเลือกชื่อที่มีที่มาที่ไป มีความหมาย เพราะทุกครั้งที่คุณได้อธิบายความหมายชื่อแบรนด์ มันทำให้สินค้าดูดีมากยิ่งขึ้น ควรเป็นชื่อที่จำง่าย เข้าใจง่าย เทคนิคการตั้งชื่อ ไม่ควรยาวหรือสั้นเกินไป ตั้งชื่อที่ไม่เกิน 3 พยางค์กำลังดี เพราะทำให้คนเรียกง่าย และติดปาก ตัวอักษรไม่ควรเกิน 6 – 10 พยางค์กำลังดี เทคนิคในการตั้งชื่อมีหลายวิธีเช่น
- เลือกใช้คำที่ติดหู คนทั่วไปรู้จัก
- ตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ ไม่ซ้ำใคร จะทำให้ชื่อแบรนด์มีความโดดเด่นและแตกต่างมากขึ้น
- นำส่วนหนึ่งของชื่อ หรือนามสกุล มาเป็นชื่อแบรนด์ เช่นคุณตัน เจ้าของเครื่องดื่มชาเขียว “อิชิตัน” , คุณ “พรทิพา ฉัตรเกษมธนกุล” เจ้าของแบรนด์ชุดว่ายน้ำ “พอนโดร่า” (PONDORA)
- ความหมาย 2 แง่ 2 ง่ามเช่น 18มงกุฎ, Virgin, คำว่าไร้สาระก็แปลงเป็น Like Sara เป็นต้น
โลโก้ หรือตราประจำสินค้า ผลิตภัณฑ์
“โลโก้” เป็นสิ่งที่ติดตัวสินค้าไปตลอด คงไม่มีธุรกิจไหนที่เปลี่ยนโลโก้อยู่ตลอดเวลาเพราะลูกค้าคงจำสินค้าไม่ได้สักที การออกแบบโลโก้ควรคำนึงว่า รูปแบบโลโก้ของเราจะสามารถใช้งานได้ตลอดไปหรือไม่ อีก 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี โลโก้ของคุณจะยังคงอยู่หรือไม่ รูปโลโก้ บ่งบอกธุรกิจชัดเจน ทำให้เห็นแล้วรู้เลยว่าธุรกิจนี้คืออะไร ฉะนั้นองค์ประกอบของโลโก้จึงล้วนมีความสำคัญทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษร รูปภาพ สี หรือขนาด
ส่วนประกอบของโลโก้
- ตัวอักษร รูปภาพ หรือสัญลักษณ์
บางธุรกิจอาจเน้นความสวยงามของ “ตัวอักษรหรือ Font” อย่างเช่นธุรกิจที่เกี่ยวกับงานแต่งงาน เราจะเห็นว่าธุรกิจนี้จะใช้ Font ที่สวยงาม ตั้งแต่ชื่อบริษัทจนกระทั้งการจัดธีมงานและการ์ดให้ลูกค้า การเล่นหาง ความพลิ้วไหวของตัวอักษรจะโดดเด่นมาก เห็นแล้วรู้เลยว่านี่คือ “งานแต่งงาน” โลโก้ของบางธุรกิจก็ไม่มีตัวหนังสือเลย มีเพียงรูป หรือสัญลักษณ์ บางอย่างแค่เห็นแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าสัญลักษณ์นี้คืออะไร อย่างเช่น STARBUCKS, PLAYBOY, APPLE, NIKE, 7/11, NOK AIR สำหรับการทำโลโก้ของธุรกิจเราเองก็ต้องใช้วิธีเดียวกัน นั่นคือการออกแบบโลโก้ให้โดดเด่น เห็นแล้วนึกถึงสินค้าได้ทันที
- สี
สี มีความสำคัญกับโลโก้เพราะสีแต่ละสี สะท้อนถึงอารมณ์และความรู้สึกได้ การเลือกใช้สี จึงต้องให้สัมพันธ์กับตัวสินค้า อย่างเช่นสินค้าสำหรับเด็ก ก็ต้องเน้นสีที่สดใส สีฟ้า…เป็นตัวแทนของเด็กผู้ชาย สีชมพู…เป็นตัวแทนของเด็กผู้หญิง หรือเมื่อเราเห็น ปากสีแดง…จะทำให้นึกถึงผู้หญิงสวยเซ็กซี่ อย่างนี้เป็นต้น
- ขนาด
ขนาดและรูปแบบของโลโก้ ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จำง่าย ไม่ควรทำคล้ายแบรนด์อื่น เพราะจะทำให้คนสับสนและคนอื่นจะมองว่าสินค้าของคุณเป็นแบรนด์ก๊อปปี้ได้ง่ายเนื่องจากสินค้าของคุณเป็นสินค้าที่เข้าตลาดทีหลัง
- รูปแบบโลโก้
ต้องคำนึงถึงเวลาที่เราจะต้องย่อขนาดด้วยว่า เมื่อย่อขนาดให้เล็กลงแล้ว รายละเอียดยังชัดเจนหรือไม่ เพราะคุณจำเป็นต้องย่อขนาดเล็กๆเพื่อทำสติ๊กเกอร์ หรือติดโลโก้บนสินค้า ถ้าย่อแล้วรายละเอียดหายไปหมด ก็ควรตัดรายละเอียดเล็กๆออก แล้วเพิ่มความคลาสสิคเข้าไปแทน คือทำอย่างไรก็ได้เมื่อย่อ หรือขยายโลโก้แล้ว ยังมีรูปแบบเหมือนกัน
สโลแกน สำหรับเรียกผลิตภัณฑ์
เคล็ดลับตั้งสโลแกนให้ติดปาก ควรเป็นสโลแกนที่น่าสนใจ จำง่าย ไม่ยาว ไม่สั้นจนเกินไป สโลแกนที่ดีต้องสื่อความหมายของธุรกิจได้ ฟังดูน่าเชื่อถือ สะท้อนลักษณะเด่นหรือคุณสมบัติพิเศษ บ่งบอกได้ว่าว่าธุรกิจเกี่ยวกับอะไร และควรทำให้สโลแกนสื่ออกมาในแง่บวกเพื่อสร้างความรู้สึกดี
สโลแกนควรมีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำหรือไม่คล้ายใคร เป็นสโลแกนที่โดดเด่น ฟังแล้วติดหู สิ่งที่แบรนด์อื่นๆชอบทำคือทำให้คนสามารถพูดซ้ำได้เลย ถ้าคุณสามารถทำให้คนอื่นพูดตามสโลแกนของคุณได้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ตัวอย่างสโลแกนสินค้าที่ฟังจนติดหูและพูดตามได้
- โก๋แก่ มันทุกเม็ด
- สำนึกดี สังคมดี รีเจนซี่ บรั่นดีไทย
- ยาหม่องตราถ้วยทอง มิตรคู่เรือน เพื่อนคู่ตัว
- อายิโนะโมะโต๊ะ ผลิตจากวัตถุดิบหลักจากธรรมชาติ
- อยากรู้เรื่องยาคูลท์ ถามสาวยาคูลท์ดูสิคะ
- ระเบิด ตูม! เกิดเป็นโกโก้ครั้นช์
- ทุกหยดซ่า โซดาสิงห์
- ธนาคารกสิกรไทย บริการทุกระดับประทับใจ
- คาราบาวแดง เชิดชูนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่
- เซเว่นอีเลฟเว่น เพื่อนที่รู้ใจ ใกล้ๆ คุณ