ปัจจุบันการเดินทางไปทํางานต่างประเทศยังเป็นที่นิยมของแรงงานไทยเป็นจํานวนมาก และสามารถนํารายได้เข้าสู่ประเทศเป็นจํานวนมหาศาล ในขณะที่ค่าจ้างภายในประเทศปรับสูงขึ้นมาก จนอาจทําให้การไปทํางานในต่างประเทศบางประเทศหรือบางตําแหน่งไม่คุ้มค่า ประกอบกับปัญหาการหลอกลวงคนหางานที่ยังคงมีอยู่ถึงแม้จะลดระดับความรุนแรงลง รวมทั้งปัญหาการจ่ายค่าบริการและค่าใช้จ่ายในอัตราสูง
จนอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ด้านแรงงานล้วนเป็นปัจจัยที่ผู้ที่จะเดินทางไปทํางานต่างประเทศต้องตัดสินใจให้ดีถึงความคุ้มค่า ซึ่งการจะตัดสินใจได้จําเป็นที่คนหางานจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเดินทางไปทํางานต่างประเทศอย่างถูกต้อง ต้องศึกษาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับประเทศที่ต้องการไปทํางาน และการเตรียมความพร้อมก่อนตัดสินใจไปทํางาน
ปัจจัยที่ต้องตระหนักก่อนตัดสินใจไปทํางานต่างประเทศ ดังนี้
- เรื่องสุขภาพ คนหางานต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจําตัวที่อาจเป็นอันตรายต่อการทํางาน รวมทั้งสุขภาพจิตใจ ที่ต้องจากครอบครัวไปทํางานไกลๆ
- อัตราค่าจ้างที่ได้รับ ในการไปทํางานต่างประเทศเมื่อเปรียบเทียบกับการทํางานในประเทศ รวมถึงการต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการไปทํางานต่างประเทศ รวมถึงการที่จะต้องเสียดอกเบี้ยจากเงินที่กู้ยืมมาในแต่ละเดือน ว่ามีความคุ้มค่ากันหรือไม่
- ต้นทุนทางสังคมที่ต้องจ่าย ซึ่งอยู่ในรูปของค่าเสียโอกาส เช่น การเสียโอกาสในการเลี้ยงดูอบรมลูก เป็นต้น
- ทักษะฝีมือ ซึ่งจะเป็นที่ต้องการของนายจ้าง และจะได้รับค่าจ้างสูงกว่าคนงานไร้ฝีมือ หรือกึ่งฝีมือ
- ประวัติอาชญากรรม หากเคยมีประวัติการกระทําผิดต่างๆ โดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจะไม่ได้รับอนุญาตให้ไปทํางานในต่างประเทศ
การเตรียมพร้อมทําอย่างไร
1. ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า งานในต่างประเทศมีจํานวนน้อย แต่คนหางานที่อยากไปทํางานมีจํานวนมาก จึงทําให้คนหางานยอมจ่ายค่าบริการและค่าใช้จ่ายที่แพง ส่วนงานระดับช่างฝีมือยังเป็นที่ต้องการของนายจ้างในต่างประเทศเป็นจํานวนมาก ซึ่งแรงงานช่างฝีมือจะได้ค่าตอบแทนสูงกว่าแรงงานกึ่งฝีมือ/ไร้ฝีมือ นายจ้างไม่ว่าประเทศใดย่อมต้องการคนงานที่มีฝีมือ ขยัน ซื่อสัตย์ สุขภาพแข็งแรง อายุไม่มาก หรือไม่น้อยเกินไป นายจ้างอาจกําหนดคุณสมบัติเฉพาะตําแหน่งงาน เช่น เพศ อายุ ส่วนสูง น้ํา หนัก หรือไม่ต้องการผู้ที่มีรอยสักตามตัว เป็นต้น
เมื่อมีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้วจะได้เลิกเชื่อสายหรือนายหน้าจัดหางานที่มักจะบอกว่า “ใครวางเงินก่อนได้บินก่อน” ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะหากคนหางานไม่มีคุณสมบัติตามที่นายจ้างต้องการก็ส่งไปไม่ได้ ซึ่งสายหรือนายหน้ามักจะให้สัญญาด้วยคําพูดว่า จะคืนเงินให้ หากไม่ได้ไปทํางาน ดังนั้นจึงควรขอหลักฐานการจ่ายเงินไว้เพื่อใช้ในกรณีที่ไม่ได้ไป คนหางานบางคนที่ขาดคุณสมบัติแล้วยังโชคร้ายถูกบริษัทจัดหางานที่ไม่มีความรับผิดชอบส่งไปทํางาน เมื่อทํางานไม่ได้ตามที่นายจ้างต้องการ ต้องยอมให้นายจ้างลดค่าจ้างหรือเปลี่ยนตําแหน่งไปทํางานอื่นที่ได้ค่าจ้างต่ำ กว่าที่ระบุในสัญญา เพราะไม่อยากถูกส่งกลับ
2. ต้องไม่เชื่อคําโฆษณาชักชวนจากทั้งตัวบุคคลและในสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีตําแหน่งงาน มีรายได้ดี ต้องตรวจสอบข้อมูลกับกรมการจัดหางานก่อนทุกครั้ง
3. ต้องรู้ว่าตนเองมีคุณสมบัติตามที่นายจ้างต้องการหรือไม่ นายจ้างจะกําหนดคุณสมบัติของคนหางานไว้เพื่อให้เหมาะสมกับตําแหน่งสภาพการจ้างและการทํางาน เช่น เพศ อายุ ส่วนสูง น้ํา หนัก ระดับการศึกษา สุขภาพ เช่น กํา หนดโรคต้องห้ามไว้ ซึ่งคนหางานต้องรู้ว่าตนเองมีคุณสมบัติ และความรู้ความสามารถตามที่นายจ้างต้องการหรือไม่ ส่วนเรื่องสุขภาพและฝีมือทางช่าง ต้องผ่านการตรวจสอบสุขภาพจากสถานพยาบาล และการทดสอบฝีมือจากสถานทดสอบฝีมือแรงงานที่กําหนด
4. ต้องรู้ว่าการไปทํางานต่างประเทศต้องทําตามสัญญาจ้าง สัญญาจ้าง คือ สัญญาระหว่างนายจ้างในต่างประเทศกับคนงาน สัญญาจ้างต้องมีชื่อและที่อยู่ของนายจ้างกับคนงานที่ตกลงทําสัญญาจ้างงานกัน สัญญาจ้างจะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับตําแหน่งงานอัตราค่าจ้าง ระยะเวลาการจ้าง วัน เวลาทํา งาน วันหยุด ค่าล่วงเวลา ค่ารักษาพยาบาล และสวัสดิการอื่นๆ
5. ต้องรู้วิธีการขั้นตอนและเอกสารที่เกี่ยวข้อง วิธีการไปทํางานต่างประเทศที่ถูกต้องตามกฎหมายมี 5 วิธี คือ
- บริษัทจัดหางานเอกชนจัดส่งไปทํางาน
- กรมการจัดหางานจัดส่งไปทํางาน
- คนหางานติดต่อทําสัญญาจ้างกับนายจ้างโดยตรง
- บริษัทนายจ้างในประเทศไทยส่งไปทํางาน
- บริษัทนายจ้างในประเทศไทยส่งไปฝึกงาน
เอกสารสําคัญที่ต้องใช้ในการเดินทางไปทํางานต่างประเทศ
- ใบผ่านการตรวจโรค
- หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
- วีซ่า
- สัญญาจ้างงาน
- สัญญาจัดหางาน
- ใบรับเงินค่าบริการและค่าใช้จ่าย
- เอกสารอื่นที่จํา เป็น เช่น หนังสือรับรองการผ่านงาน เป็นต้น
อ่านต่อ วิธีการไปทํางานต่างประเทศที่ถูกต้องตามกฏหมาย
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก : กระทรวงแรงงาน