ในทุกวันนี้สภาพเศรษฐกิจที่อาจจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยในการค้าขายสักเท่าไหร่ พ่อค้าแม่ค้าต่างก็หาเคล็ดลับ วิธีการ สินค้าใหม่ ๆ สินค้าลดราคา และสารพัดวิธีที่จะเอาใจลูกค้า และดึงดูดความสนใจของลูกค้า ในการเลือกซื้อสินค้าของตนกันมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเทคนิควิธีการแบบใด พ่อค้าแม่ค้าต่างก็สรรหาทั้งสารพัดสินค้า สินค้าในกระแส สินค้าที่ได้รับความนิยมเพื่อเอาใจลูกค้า
และพ่อค้าแม่ค้าหลายคนก็อาจจะมองว่า สภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ เรื่อง “ราคาสินค้า” คงเป็นเรื่องที่ลูกค้าให้ความสำคัญมากที่สุด แต่ในความจริงนั้น กลับไม่ใช่เช่นนั้น เพราะไม่ว่าจะราคาสูง หรือราคาถูก หากเป็นราคาที่ลูกค้าพอใจ ลูกค้าก็จะซื้อสินค้าชนิดนั้นนั่นเอง และเพื่อการกระตุ้นยอดขาย วันนี้เรามาแนะนำเทคนิคที่เป็นเคล็ดลับในการขาย เพื่อให้โดนใจผู้ซื้อนั่นเอง
4 เทคนิคในการตั้งราคาสินค้า ให้ขายดี ต้องทำอย่างไรบ้าง
1. ลดราคา / Sale
คำกล่าวที่ว่า ของลดราคา / ของ Sale มักเป็นสิ่งที่ทุกคนสนใจ ไม่ว่าจะลดมาก ลดน้อย แต่หากเป็นสินค้าที่ลูกค้าพอใจ และราคาที่รับได้ ลูกค้าก็จะซื้อสินค้าชนิดนั้น แต่อย่างน้อยที่สุดป้าย Sale และคำที่บอกลดราคา ก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจจากลูกค้า เบี่ยงเบนความสนใจของลูกค้าได้มากที่สุดนั่นเอง
2. ขายสินค้าเป็นชุด / ขายเป็นเซ็ท
แน่นอนค่ะว่าเป็นเรื่องที่เพิ่มความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้ไม่น้อย ไม่ต่างจากป้ายลดราคาสักเท่าไหร่ การขายสินค้าประเภทเดียวกัน ชนิดเดียวกัน คล้ายกัน หรือการใช้งานไปด้วยกัน เมื่อนำมาจัดเป็นชุด และเพิ่มมูลค่าของสินค้า สินค้าก็จะมีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง และลูกค้าจะรู้สึกว่า สินค้าประเภทเป็นชุดนั้น มีความคุ้มค่าในการซื้อสินค้ามากกว่านั่นเอง และนี่ก็เป็นหนึ่งในเคล็ดลับที่หลากหลายสินค้า หลากหลายบริการเลือกใช้ เพราะนอกจากจะเพิ่มมูลค่าแล้ว ยังเพิ่มปริมาณของการขายสินค้าได้มากขึ้นนั่นเอง
3. การตั้งราคาเลขคี่
ป้ายราคา 99.- , 199.- , 299.- , 399.-, 1,399 สำหรับผู้ซื้อสินค้า มักสะดุดตาสะดุดใจ และเป็นเคล็ดลับสำหรับพ่อค้าแม่ค้า ไม่ว่าจะเป็นการค้าขายใช้เลข 9 ที่เป็นเสียงพ้องกับคำว่า ก้าว หมายรวมไปถึง ความก้าวหน้า และหากซื้อสินค้าในราคาดังกล่าว ลูกค้าจะเข้าใจได้ว่า ราคาถูกกว่าความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะมีการลดราคาเพียง 1 บาท หรือมากกว่านั้นก็ตาม การตั้งราคาเลขคี่สำหรับสินค้าจึงได้รับความนิยม และเป็นหนึ่งในเทคนิคการตั้งราคาสินค้า
4. การตั้งราคาตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
การลดราคาสำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย มักใช้ในรูปแบบการให้บริการมากกว่า โดยในแต่ละการบริการก็อาจจะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาและกฎกติกาสำหรับสิทธิพิเศษดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น การลดราคาค่าอาหารกึ่งหนึ่งสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี , การลดค่าบริการสวนสนุกสำหรับเด็ก , การลดราคาค่าบริการสำหรับนักเรียน-นักศึกษา หรือ การลดค่าบริการสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งหลักเกณฑ์ต่าง ๆ นั้นก็จะทำให้ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
ราคาเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ แต่ไม่ได้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาซื้อสินค้าและบริการ เพราะการตัดสินใจนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของลูกค้าทั้งสิ้น เคล็ดลับในการตั้งราคาสินค้าก็เป็นหนึ่งในเคล็ดลับสำหรับการกระตุ้นยอดขาย สร้างความน่าสนใจ
แต่อย่าลืมว่าทุกธุรกิจมีการนำเทคนิคและวิธีการไปปรับใช้กับธุรกิจของตนได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การใช้เคล็ดลับต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องมีการปรับปรุง พัฒนาและแก้ไขให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่สำคัญ สำหรับการพัฒนาธุรกิจ นั่นก็คือ สินค้าและการให้บริการที่ดี เหมาะสม และมีการนำเทคนิคต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้ ก็จะสามารถส่งเสริมธุรกิจให้ขยายออกไปได้นั่นเอง