คุณเคยสงสัยมั้ย? ว่าทำไมตัวอย่างภาพยนตร์ถึงปล่อยออกมาให้เราดูล่วงหน้าก่อนเข้าฉายจริงเป็นเดือน ? ทำไมคอนโดที่ยังสร้างไม่เสร็จเปิดขายได้ ? วิธีเหล่านี้เป็นการสร้างความตื่นเต้นและความคาดหวังให้ลูกค้าอยากติดตามผลิตภัณฑ์ เป็นการทำการตลาดอย่างหนึ่งซึ่งได้ผลดีทีเดียว การทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพ ยังมีอีกหลายวิธีดังต่อไปนี้
1. ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ลูกค้า อย่างมีประสิทธิภาพ
อันดับแรกในการทำการตลาดคือต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าคุณคือใคร เพศไหน วัยไหน พฤติกรรมการซื้อเป็นแบบใด การรู้จักลูกค้า เป็นสิ่งที่สำคัญต่อธุรกิจมาก เพราะจะทำให้คุณสามารถกำหนดกลยุทธ์หรือกำหนดผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
ฉะนั้น การวิเคราะห์ลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญอันดับแรก ธุรกิจต้องมีวิธีทำการตลาดที่เหมาะสม วิธีการทำวิจัยการตลาดง่ายๆ ก็อย่างเช่น การสัมภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม เป็นลักษณะการลงพื้นจริง สำรวจลูกค้าจริงๆข้อดีคือได้ฟังข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากลูกค้าซึ่งมีประโยชน์และเอาไปปรับใช้ได้
ส่วนวิธีที่รวดเร็วขึ้นมาหน่อยก็จะเป็นการทำวิจัยทางการตลาดในอินเตอร์เน็ต ข้อดีคือกระจายแบบสอบถามได้กว้างขวาง เก็บข้อมูลได้รวดเร็ว และมีเครื่องมือเข้ามาช่วยมากมาย เช่น Google Adwords Keyword Tool
2. เข้าตลาดให้ถูกจังหวะ
- ระวังการเข้าตลาดไม่ถูกที่ เช่น การติดตั้งเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญในหมู่บ้านต่างจังหวัด คือคนต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะมีเครื่องซักผ้าแทบทุกบ้านจึงไม่ค่อยมีใครใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ การติดตั้งเครื่องซักผ้าจะได้รับความสนใจในชุมชนมากกว่า เช่นตัวเมืองที่มีคนนอกท้องถิ่นมาอาศัยอยู่ตามหอพักอย่างนี้เป็นต้น
- และระวังการเข้าตลาดไม่ถูกเวลา สินค้าบางประเภท นักธุรกิจอุตส่าห์ตั้งใจศึกษาความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี สรรหานวัตกรรมใหม่ๆ เทคโนโลยีเจ๋งๆ แต่กลับพบว่าเมื่อปล่อยสินค้าเข้าตลาดแล้วผลตอบรับกลับไม่ดีเท่าที่ควร!! นั่นอาจเป็นเพราะคุณนำสินค้าเข้าตลาดเร็ว หรือช้าเกินไปนั่นเอง
ตัวอย่าง บริษัทโตโยต้า เจ้าแห่งรถดังจากญี่ปุ่นที่แข็งแกร่ง ปกติแล้วมักจะนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาถูกจังหวะเสมอ แต่ในช่วงที่คู่แข่งเกือบทุกค่ายปล่อยรถ Eco-Car ออกมาทำตลาดระดับล่าง แถมยังเป็นช่วงที่รัฐบาลสนับสนุนรถยนต์คันแรกอีก เป็นจังหวะที่ดีมากๆ แต่โตโยต้ากลับนิ่งเฉยและเน้นทำตลาดรถขนาดกลางอย่าง Camry และ Prius ต่อไป
จนฮอนด้าออกรถยนต์ Jazz Hybrid ออกมาซึ่งเป็นรถขนาดเล็กและประหยัดพลังงาน เรียกได้ว่าตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครบครัน ในตอนนั้นโตโยต้าจึงเริ่มหันมาออกรถยนต์เล็กประหยัดพลังงาน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะช้าเกินไปเพราะรถค่ายอื่นๆ ได้กวาดยอดขายไปหมดแล้ว
3. โฆษณา ให้มีประสิทธิภาพ
“ผู้บริโภคทุกวันนี้ชอบโฆษณาที่ใช้คำอธิบายน้อย ใช้เวลาน้อย และตรงประเด็น” การสื่อสารที่ส่งตรงไปยังลูกค้าต้อง “ส่งให้ตรงประเด็น” ต้องให้ชัดเจนถึงจะตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ถ้าเป็นโฆษณาทีวี หรือคลิป ตัววีดีโอจะน่าสนใจอยู่แล้วเพราะช่วยทำให้เพลิดเพลิน แต่ถ้าเป็นข้อความ หรือบทความจะต้องเขียนให้ดึงดูดความสนใจให้มาก ถ้าเริ่มอ่านแล้วยังจับสาระไม่ได้ลูกค้าส่วนใหญ่จะข้ามบทความไปทันที
ฉะนั้นจึงต้องให้ความสำคัญตั้งแต่ พาดหัว (Title) เพราะเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ทำให้คนอ่านตัดสินใจว่าจะอ่านเนื้อหาต่อหรือไม่ ส่วนของเนื้อหาข้างใน ก็ไม่ควรทำให้ผิดหวังที่คลิกเข้ามาอ่าน สิ่งสำคัญยังอยู่ที่จุดเดิมคือ “ตรงประเด็น” อาจเขียนออกแนวตลกเฮฮาก็ดีไปอีกแบบ แต่ไม่ควรเขียนให้เวิ่นเว้อ และไม่ควรเขียนเกินจริงเชิงหลอกให้เข้ามาอ่าน (เหมือนเพจเฟสบุ๊คที่เห็นกันบ่อยๆ) เพราะนอกจากจะทำให้ลูกค้าหงุดหงิดใจแล้ว ยังสะท้อนความไม่มีจรรยาบรรณของผู้ขายด้วย
4. สื่อออนไลน์ ถูก ง่าย และมีประโยชน์มหาศาล
ทุกวันนี้การมีเพจขายสินค้าเริ่มกลายเป็นความจำเป็นกับทุกๆประเภทธุรกิจไปเสียแล้ว ธุรกิจของคุณอาจรุ่งเรืองมาก่อนที่โลกอินเตอร์เน็ทจะบูม แต่พักหลังๆมานี้ลูกค้ากลับถามคุณว่ามีช่องทางการติดต่ออย่างเพจขายสินค้า หรือไลน์บ้างหรือไม่? ธุรกิจทั้งหลายจึงจำเป็นต้องปรับตัวตามวิถีที่เปลี่ยนไป
สื่อออนไลน์ เป็นช่องทางการขายที่ถูก ง่าย และมีประโยชน์มหาศาล เป็นช่องทางที่คุณสามารถสร้างตัวตนได้เต็มที่ และเป็นช่องทางที่ลูกค้าติดต่อหาคุณได้ตลอดเวลา สำหรับแบรนด์ที่ไม่ได้ทำการตลาดออนไลน์ไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใด เพียงแต่การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าอาจจะช้าไปสักหน่อย
สรุปส่งท้าย
ในยุคนี้ การแข่งขันทางธุรกิจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็มียังโอกาสมากมายที่ทำให้เราได้ส่วนแบ่งการตลาดง่ายขึ้นธุรกิจสมัยใหม่อาจจะต้องทุ่มเทศึกษาการทำการตลาดสักหน่อย ส่วนธุรกิจที่มีมานานแล้วก็อาจจะต้องปรับตัวเรื่องการทำการตลาดบ้างเพื่อให้ขยับตัวได้ทันคู่แข่ง เพราะการชะล่าใจอาจเสียประโยชน์ทำให้เสียส่วนแบ่งการตลาดไปได้